สหกรณ์ออมทรัพย์สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ จำกัด

National Institute of Development Administration Savings Cooperative Limited

Search
Close this search box.

สหกรณ์ออมทรัพย์

สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาตร์ จำกัด

National Institute of Development Administration Savings Cooperative Limited

Search
Close this search box.

บริการเงินกู้

การกู้

การบริการให้กู้เงิน สหกรณ์ให้เงินกู้แก่สมาชิก 3 ประเภท ได้แก่

เงินกู้เพื่อเหตุฉุกเฉิน (ฉ.ฉ)

วงเงินกู้

ไม่เกิน 100,000 บาท หรือสองเท่าของเงินได้รายเดือนของสมาชิกผู้กู้ แล้วแต่จำนวนใดจะน้อยกว่า

เงื่อนไขการกู้

  • สมาชิกที่มีหนี้เงินกู้เพื่อเหตุฉุกเฉินเหลืออยู่ หากจะขอกู้ใหม่จะต้องชำระหนี้เดิมให้หมดก่อน
  • การชำระหนี้เงินกู้ที่เหลืออยู่ในวันทำการซึ่งเป็นวันสิ้นเดือน (วันที่เงินเดือนออก) จะไม่เสียดอกเบี้ย
  • การชำระหนี้เงินกู้ที่เหลืออยู่ในวันอื่น จะเสียดอกเบี้ยเป็นรายวัน

ขั้นตอนการขอกู้

สมาชิกที่ประสงค์จะกู้เงินเพื่อเหตุฉุกเฉิน เขียนคำขอกู้ตามแบบฟอร์มของสหกรณ์และส่งให้เจ้าหน้าที่สหกรณ์

  • คำขอกู้ที่มีหนี้เงินกู้เพื่อเหตุฉุกเฉินเหลืออยู่ และส่งให้เจ้าหน้าที่สหกรณ์ระหว่างวันที่ 6 ถึงวันสิ้นเดือน จะได้รับเงินกู้ในวันทำการวันแรกของเดือนถัดไป
  • คำขอกู้ที่ไม่มีหนี้เงินกู้เพื่อเหตุฉุกเฉินเหลืออยู่ และส่งให้เจ้าหน้าที่สหกรณ์ ระหว่างวันที่ 6 ถึงวันสิ้นเดือน จะได้รับเงินกู้ทันที
  • คำขอกู้ที่ส่งให้เจ้าหน้าที่สหกรณ์นอกเหนือจากวันดังกล่าว จะได้รับเงินกู้ภายในระยะเวลา 1 วันทำการ นับจากวันยื่นคำขอกู้

เอกสารประกอบการขอกู้

  • แบบคำขอกู้เงินเพื่อเหตุฉุกเฉิน (โดยระบุจำนวนเงินที่ขอกู้ เหตุผลที่ขอกู้)

การชำระหนี้

  • ส่งเงินต้นไม่เกิน 12 เดือนๆ ละเท่าๆ กัน พร้อมดอกเบี้ย

อัตราดอกเบี้ย

  • ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 5.00% ต่อปี (เปลี่ยนแปลงตามประกาศของสหกรณ์)

เงินกู้สามัญ

ผู้มีสิทธิกู้

  • เป็นสมาชิกของสหกรณ์ออมทรัพย์สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ จำกัด ติดต่อกันมาเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 6 เดือน
    สมาชิกซึ่งส่งคืนเงินกู้สามัญมาแล้วไม่น้อยกว่า 10 งวด หรือสมาชิกซึ่งยังส่งคืนเงินกู้เพื่อเหตุฉุกเฉินยังไม่หมดก็มีสิทธิกู้ แต่เมื่อได้รับอนุมัติให้กู้เงินแล้ว จะต้องชำระหนี้เดิมให้เรียบร้อยก่อน

วงเงินกู้

จำนวนเงินกู้สามัญที่ให้แก่ผู้กู้ มีจำนวนไม่เกิน 1,000,000 บาท ผ่อนชำระไม่เกิน 180 งวด หรือไม่เกินเวลาที่ผู้กู้เกษียณอายุราชการแล้วแต่จำนวนใดจะน้อยกว่า ดังนี้

(1) ผู้กู้เป็นสมาชิกตั้งแต่ 12 เดือน แต่ไม่เกิน 24 เดือน มีสิทธิกู้ได้ 6 เท่าของเงินได้รายเดือนรวมกับสองเท่าของมูลค่าหุ้น
(2) ผู้กู้เป็นสมาชิกตั้งแต่ 24 เดือน แต่ไม่เกิน 36 เดือน มีสิทธิกู้ได้ 9 เท่าของเงินได้รายเดือนรวมกับสองเท่าของมูลค่าหุ้น
(3) ผู้กู้เป็นสมาชิกตั้งแต่ 36 เดือน แต่ไม่เกิน 48 เดือน มีสิทธิกู้ได้ 12 เท่าของเงินได้รายเดือนรวมกับสองเท่าของมูลค่าหุ้น
(4) ผู้กู้เป็นสมาชิกตั้งแต่ 48 เดือน แต่ไม่เกิน 60 เดือน มีสิทธิกู้ได้ 15 เท่าของเงินได้รายเดือนรวมกับสองเท่าของมูลค่าหุ้น
(5) ผู้กู้เป็นสมาชิกตั้งแต่ 60 เดือนขึ้นไป มีสิทธิกู้ได้ 20 เท่าของเงินได้รายเดือนรวมกับสองเท่าของมูลค่าหุ้น

อนึ่ง สหกรณ์มีหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการค้ำประกัน ดังนี้

1) ผู้กู้ที่มีวงเงินกู้ไม่เกินกว่ามูลค่าหุ้นที่มีอยู่ บวกกับ 300,000 บาท ต้องจัดหาบุคคลค้ำประกันตามระเบียบสหกรณ์ โดยไม่จำเป็นต้องทำประกันชีวิตกลุ่ม

2) ผู้กู้ที่มีวงเงินกู้เกินกว่ามูลค่าหุ้นที่มีอยู่ บวกกับ 300,000 บาท ต้องจัดหาบุคคลค้ำประกันตามระเบียบสหกรณ์ และต้องทำประกันชีวิตกลุ่มในส่วนต่างตามที่สหกรณ์กำหนด

อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 5.00% ต่อปี (เปลี่ยนแปลงตามประกาศของสหกรณ์)

หลักประกันเงินกู้

  • เงินกู้ที่ใช้หุ้นของผู้กู้เป็นประกันเงินกู้ ไม่ต้องมีหลักประกันอย่างอื่นอีก
  • เงินกู้ที่มีหลักทรัพย์รัฐบาลหรือเอกสารการฝากเงินในธนาคารจำนำเป็นประกันหรือใช้เงินฝากซึ่งฝากไว้กับสหกรณ์เป็นประกันเงินกู้ ไม่ต้องมีหลักประกันอย่างอื่นอีก
  • เงินกู้ที่มีจำนวนเงินเกินกว่าค่าหุ้นที่ผู้กู้มีอยู่ในสหกรณ์ ต้องมีบุคคลค้ำประกัน

การค้ำประกัน

ผู้มีสิทธิค้ำประกันเงินกู้สามัญ

1) สมาชิกที่เป็นข้าราชการและลูกจ้างประจ้า
2) สมาชิกที่เป็นพนักงานสถาบัน ต้องปฏิบัติงานในสถาบันต่อเนื่องมาแล้วไม่น้อยกว่า 6 เดือน
3) สมาชิกที่เป็นเจ้าหน้าที่สหกรณ์ ต้องปฏิบัติงานในสหกรณ์ต่อเนื่องมาแล้วไม่น้อยกว่า 6 เดือน
4) สมาชิกที่เป็นลูกจ้างชั่วคราวจากเงินงบประมาณแผ่นดิน/เงินรายได้ และลูกจ้างชั่วคราวจากเงินทุน/กองทุนของคณะ/สำนัก/ภาคพิเศษ/โครงการ/ศูนย์การศึกษาของสถาบันหรือคณะ/หน่วยงานที่มีฐานะเทียบเท่าคณะหรือสำนัก ที่มีระเบียบหรือหลักเกณฑ์ในการจ้างและมีการทำสัญญาจ้าง โดยต้องปฏิบัติงานในสถาบันต่อเนื่องมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี
สมาชิกรายหนึ่งสามารถค้ำประกันเงินกู้ได้ภายในวงเงิน 15 เท่าของเงินเดือน แต่ต้องไม่เกิน 1,000,000 บาท

ไม่มีสิทธิค้ำประกันเงินกู้สามัญ

1) สมาชิกที่เป็นคู่สมรสของผู้กู้
2) สมาชิกที่ขาดชำระค่าหุ้นรายเดือนถึงสามงวดติดต่อกันหรือขาดชำระรวมถึงหกงวด
3) สมาชิกที่ค้างส่งเงินงวดชำระหนี้ ไม่ว่าต้นเงินหรือดอกเบี้ยติดต่อกันเป็นเวลาถึงสองเดือน หรือ ผิดนัดการส่งเงินงวดชำระหนี้ดังว่านั้นถึงสามคราวสำหรับเงินกู้รายหนึ่งๆ
4) สมาชิกที่เป็นคู่สมรสจะเป็นผู้ค้ำประกันในหนี้รายเดียวกันไม่ได้
5) สมาชิกที่ไม่เข้าเงื่อนไขตาม 1) – 4) ซึ่งกรรมการเงินกู้สามัญเห็นว่าไม่เหมาะสมต่อการค้ำประกันในกรณีที่สมาชิกมีค่าหุ้นเกินกว่าจำนวนเงินได้รายเดือนของตนรวม 25 เดือนให้เงินกู้ไม่เกินร้อยละ 90 ของมูลค่าหุ้นที่เหลืออยู่หลังจากนำไปค้ำประกันเงินกู้อื่นใดของสหกรณ์ ผ่อนชำระได้ไม่เกิน 240 งวด

ขั้นตอนการกู้

  • ขอแบบฟอร์มคำขอกู้ที่สหกรณ์
  • สมาชิกซึ่งเป็นข้าราชการที่ดำรงตำแหน่งต่ำกว่าระดับ 5 หรือลูกจ้างประจำ จะต้องให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาให้ความเห็น ส่วนสมาชิกซึ่งเป็นข้าราชการที่ดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าระดับ 5 ไม่ต้องให้ผู้บังคับบัญชีพิจารณาให้ความเห็น
  • หาบุคคลที่เป็นสมาชิกมาค้ำประกัน (กรณีให้บุคคลค้ำประกัน)
  • ส่งคำขอกู้ต่อสหกรณ์ ซึ่งในแต่ละเดือนจะรับคำขอกู้เงินสามัญ 2 ครั้ง
    ครั้งที่ 1 ส่งคำขอกู้ภายในวันที่ 3 ของเดือนผู้กู้จะได้รับเงินกู้ในวันที่ 8 หรือ 9 ของเดือนนั้น
    ครั้งที่ 2 ส่งคำขอกู้ภายในวันที่ 25 ของเดือน ผู้กู้จะได้รับเงินกู้ในวันสิ้นเดือน
  • กรณีผู้กู้ใช้ทุนเรือนหุ้นค้ำประกันเงินกู้ 90% ของทุนเรือนหุ้น สามารถยื่นกู้ได้ทุกวัน โดยได้รับเงินกู้ภายใน 2 วันทำการ ยกเว้นผู้มีหนี้เดิม
  •  ทำหนังสือกู้/หรือสัญญาเงินกู้ต่อสหกรณ์ตามแบบที่กำหนด

เอกสารการขอกู้

  • แบบฟอร์มคำขอกู้เงินกู้สามัญ
  • สัญญาเงินกู้สามัญ
  • หนังสือผู้ค้ำประกัน
  • ใบรับเงินของสหกรณ์ฯ ฉบับปัจจุบันก่อนขอกู้
  • ใบแจ้งยอดเงินเดือนของส่วนการคลังหรือหน่วยงานต้นสังกัดฉบับปัจจุบันก่อนขอกู้ ทั้งผู้กู้ และผู้ค้ำประกัน
  • สมาชิกที่เป็นพนักงานสถาบันต้องแนบสัญญาว่าจ้างพนักงานสถาบัน

การชำระหนี้

ชำระหนี้เป็นงวดรายเดือนๆ ละเท่ากัน (เว้นแต่งวดสุดท้าย) พร้อมดอกเบี้ยเป็นจำนวนไม่เกิน 180 งวด หรือไม่เกินระยะเวลาที่ผู้กู้จะเกษียณอายุ สำหรับสมาชิกที่มีระยะเวลาการจ้างตามสัญญาจ้างของสถาบันส่งชำระหนี้ได้ไม่เกินระยะเวลางวดที่เหลือตามสัญญาจ้าง เว้นแต่ใช้ทุนเรือนหุ้นค้ำประกันส่งชำระได้ไม่เกิน 240 งวด

เงินกู้พิเศษ

วัตถุประสงค์ของการกู้

  • เพื่อการเคหะสงเคราะห์ ได้แก่ การก่อสร้าง ต่อเติม หรือปรับปรุงอาคาร หรือซื้ออาคาร หรือซื้อที่ดินและอาคาร และซื้อที่ดินเพื่อจะก่อสร้างอาคาร
  • เพื่อการสร้างฐานะของครอบครัว ได้แก่ เงินกู้เพื่อการลงทุนในกิจการต่างๆ อันจะก่อประโยชน์แก่ผู้กู้และครอบครัว

สิทธิการกู้

  • เป็นสมาชิกของสหกรณ์ออมทรัพย์สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ จำกัด ติดต่อกันมาเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 6 เดือน สำหรับการกู้เพื่อการเคหะสงเคราะห์และการกู้เพื่อสร้างฐานะของครอบครัว
  • สมาชิกซึ่งส่งคืนเงินกู้พิเศษมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ของระยะเวลาการผ่อนชำระเงินกู้นั้น เว้นแต่จะได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการดำเนินการเป็นกรณีพิเศษหรือสมาชิกที่มีหนี้เงินกู้สามัญ เมื่อได้รับอนุมัติให้กู้เงินแล้วจะต้องชำระหนี้เดิมให้เรียบร้อยก่อน

วงเงินกู้

  • ไม่เกิน 15,000,000 บาท สำหรับเงินกู้เพื่อเคหะสงเคราะห์ หรือเงินกู้เพื่อการสร้างฐานะของครอบครัว โดยขึ้นอยู่กับเงินได้รายเดือนของผู้กู้และหลักประกันเงินกู้

อัตราดอกเบี้ย

  • ร้อยละ 5.00% ต่อปี (เปลี่ยนแปลงตามประกาศของสหกรณ์)

การชำระหนี้

  • -ไม่เกิน 360 งวด หรือไม่เกินอายุของผู้กู้ 70 ปี สำหรับเงินกู้เพื่อการเคหะสงเคราะห์และเงินกู้เพื่อการสร้างฐานะของครอบครัว

หลักประกันเงินกู้

(1) หุ้นของผู้กู้ที่เหลือหลังจากนำไปค้ำประกันเงินกู้อื่นใดของสหกรณ์ และ/หรือหลักทรัพย์รัฐบาล หรือเอกสารการฝากเงินในธนาคาร หรือเอกสารฝากเงินในสหกรณ์ออมทรัพย์สถาบันบัณฑิตพัฒน บริหารศาสตร์ จำกัด จำนำเป็นประกันเงินกู้รายนั้นโดยจำนวนเงินกู้ต้องอยู่ภายในร้อยละแปดสิบของมูลค่าของหลักทรัพย์นั้น
(2) อสังหาริมทรัพย์อันปลอดจากภาระจำนองรายอื่น จำนองเป็นประกันเต็มจำนวนเงินกู้รายนั้น ให้เป็นไปตามประกาศสหกรณ์
ผู้กู้จะต้องเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการจำนองหรือจำนำเอง

การประเมินราคาหลักทรัพย์

  • หลักประกันเงินกู้เพื่อการเคหะสงเคราะห์ และเพื่อการสร้างฐานะของครอบครัว
  • ที่ดิน ใช้ราคาที่ประเมินโดยสำนักงานที่ดินในเขตที่ที่ดินจะนำมาจำนองนั้นตั้งอยู่
  • อาคาร/บ้าน คณะกรรมการประเมินราคาและตรวจสอบหลักทรัพย์ของสหกรณ์เป็นผู้ประเมิน จำนวนเงินที่สหกรณ์จะให้กู้ได้ไม่เกินร้อยละ 80 ของมูลค่าหลักทรัพย์ (ที่ดินและหรืออาคาร/บ้าน)
  • หลักประกันสำหรับเงินกู้เพื่อยานพาหนะ

ค่าใช้จ่ายในการกู้

  • ผู้กู้จะต้องออกค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการจำนองหรือจำนำเอง
  • ผู้กู้จะต้องรับผิดชอบค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการจดทะเบียนโอนและ-ค่าเช่าซื้อทั้งสิ้น (เงินกู้พิเศษเพื่อยานพาหนะ)
  • ผู้กู้จะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการประเมินหลักทรัพย์ตามวงเงินที่ไดรับอนุมัติให้กู้ดังนี้

    วงเงินกู้ที่ได้รับอนุมัติ
    น้อยกว่า 500,000 บาท / มีค่าใช้จ่าย  1,000 บาท
    500,000 – 1,000,000 บาท / มีค่าใช้จ่าย 1,500 บาท
    มากกว่า 1,000,000 บาท / มีค่าใช้จ่าย 2,000 บาท
  • ค่าพาหนะและค่าที่พักตามที่จ่ายจริง

ขั้นตอนการกู้

  • ขอแบบฟอร์มคำขอกู้ที่สหกรณ์
  • เจ้าหน้าที่สหกรณ์ทำหนังสือขอทราบราคาประเมินที่ดิน
  • ผู้ขอกู้นำคณะกรรมการประเมินราคาและตรวจสอบหลักทรัพย์ ไปประเมินราคาและตรวจสอบหลักทรัพย์
  • ส่งคำขอกู้ซึ่งกรอกรายละเอียดเรียบร้อยแล้วที่เจ้าหน้าที่สหกรณ์พร้อมหลักฐาน

หนังสือประเมินราคาที่ดิน

  • เอกสารการประเมินราคาอาคาร/บ้าน ซึ่งประเมินโดยคณะกรรมการประเมินราคาและตรวจสอบหลักทรัพย์ของสหกรณ์

รูปแบบและรายการก่อสร้างหรือต่อเติมปรับปรุงอาคาร

  • คณะอนุกรรมการเงินกู้พิเศษพิจารณาคำขอกู้
  • เจ้าหน้าที่สหกรณ์จัดเตรียมเอกสารประกอบการจำนองที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
  • เจ้าหน้าที่สหกรณ์นัดผู้กู้ไปจำนองที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง (ตามลำดับการอนุมัติเงินกู้)
  • จ่ายเงินกู้ตามจำนวนเงินกู้ที่ได้รับอนุมัติ หลังจากหักหนี้เงินกู้พิเศษที่มีอยู่เดิม (ถ้ามี)

หมายเหตุ :

1. ในกรณีที่ดินติดภาระจำนองกับธนาคารหรือสถาบันการเงินอื่น จะต้องนัดเจ้าหน้าที่ของธนาคารหรือสถาบันการเงินไปพรัอมกันในวันที่ไปจำนองที่ดินด้วย เพื่อไถ่ถอนจำนองและนำมาจำนองกับสหกรณ์
2. เจ้าหน้าที่สหกรณ์จะเตรียมเช็คเงินสดไปไถ่ถอนที่ดิน ซึ่งจำนองไว้กับธนาคารหรือสถาบันการเงิน

เอกสารการขอกู้

  • แบบฟอร์มคำขอกู้พิเศษ
  • สำเนาโฉนดครบทุกหน้า
  • ใบรับเงินของสหกรณ์ฯ ฉบับปัจจุบันก่อนขอกู้
  • ใบแจ้งยอดเงินเดือนของส่วนการคลังหรือหน่วยงานต้นสังกัดฉบับเดือนที่ผ่านมา 1 เดือนก่อนคำขอกู้
  • สำเนาบัตรประจำตัวของผู้กู้และคู่สมรส

เอกสารประกอบการทำนิติกรรมจำนอง

  • โฉนดที่ดินฉบับจริงทุกหน้า หรือหนังสือแสดงกรรมสิทธิอาคารชุดที่นำมาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน
  • บัตรประจำตัวประชาชน/บัตรประจำตัวข้าราชการของเจ้าของโฉนด
  • ทะเบียนบ้านของเจ้าของโฉนด
  • คู่สมรสให้ความยินยอมในการทำนิติกรรม